http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,589,242
Page Views22,674,651
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

นายกสิงค์โปรเข้าแถวซื้ออาหาร อีกมุมมองเพื่อการพัฒนาจิตและสมองให้เข้าใจแง่มุมที่หลากหลาย

(อ่าน 443/ ตอบ 0)

เว็บมาสเตอร์






เป็นที่ปลื้มใจสำหรับคนทั่วไปที่ได้เห็น คนระดับนายกฯ มายืนต่อคิวซื้ออาหาร 30 นาทีกว่าจะได้กิน มองผิวเผินก็น่าชื่นชมครับ ว่าทำตามกฎ นี่เป็นหลักประชาธิปไตยแบบที่หลายคนคิดว่าโอเค แต่อยากให้วิเคราะห์เชิงลึกในมุมกลับกันบ้าง เพื่อจะได้เห็นมิติทางสังคมและเพื่อประโยชน์สูงสุดว่าแบบไหนดีกว่ากัน

การให้เกียรติผู้นำหรือบุคคลที่สำคัญ หรือบุคคลผู้ทำประโยชน์ให้ส่วนรวม เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม และไม่ควรเอาหลักที่ว่าใครมาก่อนควรได้ก่อน มันไม่ใช่เรื่องของสิทธิ แต่เป็นเรื่องของประโยชน์ ถ้าผมยืนอยู่ข้างหน้าผมจะสละให้ นายกฯ ลัดคิวผมไปก่อน เพราะผมเชื่อว่า เวลา 30 นาทีของคนระดับนี้ เอาไปทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้อีกเยอะ คนระดับนี้จะไม่มีลูกน้องเลยหรือ?? ให้ลูกน้องมาซื้อให้ก็ได้ โทรสั่งก็ได้ อาหารสำหรับคนระดับนายก คิดว่าไม่มีกินเหรอ?? ระดับนี้มีพ่อครัว มีอาหารประเคนหรูไม่ขาดแคลนอยู่แล้ว ทำไมต้องมายืนซื้อเอง ในทางการเมืองเขาเรียกกันว่า เป็นการสร้างภาพครับ เหมือนการโฆษณาและหลักการตลาดของสินค้านั่นแหละ การกระทำของนักการเมืองแต่ละอย่าง จะมีทีมวิจัยและคอยแนะนำอยู่แล้วว่า ทำอย่างไร จะได้ใจประชาชน จะให้ภาพออกมาดูดี จะให้เกิดกระแส ถ้าคิดจะคลั่งการเมือง ก็ควรจะรู้เท่าทันเล่ห์กลการเมืองด้วย 

เอาเวลา 30 นาทีที่เสียไป ไปเดินเยี่ยมประชาชน ไปเดินถามแม่ค้าแต่ละร้านถึงปัญหาชีวิตซะยังดีกว่า 30นาทีกับคนแก่ปูนนี้ที่ต้องทนหิวข้าว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งหากป่วยไป ก็ทำให้สมองทำงานไม่ดี การคิดแก้ไขปัญหาให้ชาติก็อาจจะทำได้ไม่ดีไปด้วย มองให้ลึกจะเห็นว่า การมายืนต่อคิวแบบนี้ ในสายตาผมถือว่าไร้สาระมาก เราจะมาคิดแต่เรื่องสิทธิ โดยไม่คำนึงถึงหน้าตาของประเทศและเกียรติของผู้นำเลยหรือ เหมือนที่ผมเห็นพระต้องไปยืนต่อแถวซื้อตั๋วโดยสารในหมอชิตเป็นประจำนั่นแหละ และก็แปลกใจว่า คนข้างหน้าทำไมไม่ให้พระท่านซื้อตั๋วไปก่อน หรือคนขายก็น่าจะนิมนต์พระท่านก่อน 

ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันตามกฎหมาย แต่ในหลักของความเป็นมนุษย์ที่มีสามัญสำนึกสูงกว่าสัตว์ การให้เกียรติบุคคลที่มีบุญคุณ บุคคลพิเศษ หรือกระทั่งเสียสละให้บุคคลที่ด้อยกว่า เป็นสิ่งที่มนุษย์ผู้มีใจสูงแล้วเท่านั้นที่จะคิดได้ครับ ไม่ใช่ว่า กฎแบบนี้ฉันรักษาสิทธิ์ของฉัน เหมือนรถติดไฟแดง ถ้ารถพยาบาลมา ก็ต้องสละให้ไปก่อนใช่ไหม??มันต้องดูความจำเป็น ความเหมาะสม และหลายอย่าง เพื่อให้กฎมันมีผลดีและเกิดประโยชน์สูงสุด

การเข้าใจประชาธิปไตยแบบผิดๆ มองสิทธิตัวเองเป็นใหญ่ จึงเกิดความคิดที่ลามปามไปถึงสถาบันเบื้องสูงหลายกรณี หลายคนหงุดหงิดทนไม่ไหว อยากให้ท่านมาติดไฟแดงมีสิทธิ์เท่ากับประชาชนปกติ คนเหล่านี้ล้วนจ้องจะรักษาสิทธิ์ตัวเอง จนลืมกำพืดของตน กล้าเอาชีวิตที่มีลมหายใจเพื่อเสพสุขให้ตัวเองไปวันๆ ไปเทียบเท่ากับบุคคลที่ท่านทำประโยชน์ให้สังคม หรือบุคคลที่เป็นผู้นำของประเทศ เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่เคารพเทิดทูน ฯลฯ 

หลายท่านมีงานเพื่อส่วนรวมเร่งด่วนและเป็นประโยชน์กับชาติมาก ท่านต้องไปเปิดงาน ไปเปิดโครงการที่มีคนสำคัญรออยู่จำนวนมาก และจะสานต่อให้เกิดโครงการหรือสิ่งดีๆ ในสังคมอีกมาก และแม้ถึงเวลาท่านกลับ ท่านเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว จะให้ท่านกลับแบบสบายๆ ให้สิทธิพิเศษเพื่อถนอมสุขภาพของท่านให้ไว้ทำประโยชน์กับส่วนรวมต่อไปจะไม่ได้เลยหรือ ใครไม่เคยออกงานคงไม่รู้หรอกว่า มันเหนื่อยแค่ไหน ไหนจะต้องแต่งตัวให้ดูดี ต้องวางตัวให้ดี การต้องเดินทางไปร่วมพิธีต่างๆ ต้องเจอด้วยตัวเองจะรู้ว่าเหนื่อยมหาโหดมาก ผมแค่ไปร่วมงาน ทำตัวสบายๆ ไปบรรยายเดือนละไม่กี่ครั้ง ยังเหนื่อยแทบขาดใจ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ป่วยต่ออีกหลายโรค และคิดดูว่าหลายท่านไปเปิดงาน ร่วมงานแทบทุกวัน สำหรับบางครั้งอาจเป็นการเดินทางส่วนตัว แต่คนดีที่จิตใจสูงเท่านั้น ถึงจะมองเห็นภาพในวงกว้างว่า บรรพบุรุษของท่านจนมาถึงรุ่นปัจจุบันทำประโยชน์ให้ประเทศนี้แค่ไหน แม้จะเป็นแค่ลูกหลานของท่าน ก็ควรจะได้รับสิทธิพิเศษ ได้รับเกียรติตามสมควร และควรมีสิทธิ์เหนือคนทั่วไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว 

ไม่ใช่การยอมตกเป็นเบื้องล่าง แต่มันหมายถึงการสำนึกบุญคุณและให้เกียรติบุคคลผู้ควรให้เกียรติ ซึ่งคนที่มีสามัญสำนึกไม่สูงพอ ย่อมเข้าใจเรื่องพวกนี้ไม่ได้แน่ บทความนี้อยู่ในพื้นฐานที่ชื่นชมการเข้าคิวนะครับ แต่อยากชี้ประเด็นให้เห็นว่า บางครั้ง สำหรับบางคน สิ่งเหล่านี้มันไม่จำเป็นเลย เหมือนสมัยก่อนผมเคยคิดจะประหยัดเงินค่าแท๊กซี่ นั่งรอรถตู้ รถเมล์บางทีถึง 2-3 ชั่วโมง ทำแบบนี้มานานเลย จนวันหนึ่งก็เลิกโง่ แล้วคิดได้ว่า เออนั่งแท๊กซี่ก็แพงกว่าไม่เท่าไหร่ แต่ประหยัดเวลาไปได้มาก เอาเวลาไปทำประโยชน์ ไปอัดเสียง ไปทำอะไรซะดีกว่าที่จะมาประหยัดนั่งรอ ทั้งหิวทั้งเหนื่อยแบบนี้ เช่นกันครับ ถ้าผมเป็นนายกฯ ผมจะไม่มาเสียเวลายืนเข้าคิวซื้อไก่ เอาเวลาไปดูแลทุกข์สุขประชาชน หรือเอาไปนั่งคิดแก้ปัญหาให้ส่วนรวมดีกว่า หิวก็โทรสั่งอาหารซึ่งมีภัตาคารหรู ที่พร้อมบริการคนระดับนี้แบบเต็มใจและด่วนจี๋ให้เสมออยู่แล้วครับ

   

เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ภาพนี้คือตัวอย่างของคนที่มีรถ สามารถเดินทางได้สะดวก แต่กลับลงเดินแล้วทิ้งรถไว้ กว่าจะไปถึง ทั้งหิวทั้งเหนื่อย แทนที่จะนั่งรถไปสบายๆ แล้วเอาเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่น  ธรรมะสอนให้เรารู้จักพิจารณาโดยแยบคายครับ ไม่ใช่สักแต่ว่า คิดอะไรตื้นๆ พื้นๆ แล้วเชื่อในสิ่งที่เห็นเท่านั้น โลกนี้เต็มไปด้วยนัยยะแฝง ที่ถ้าเอามาพิจารณาจะเกิดประโยชน์สูงสุดครับ  นี่เป็นการติเพื่อก่อ และหวังกระตุกความคิดให้คนคิดได้ในแง่มุมอื่นๆ ไม่ใช่สักแต่คิดตามกัน และมองแค่ภาพภายนอกเท่านั้น 


 



Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view