https://www.facebook.com/photo.php?fbid=652993354769494&set=a.167182446683923.38555.100001765076132&type=1&permPage=1

สงสารคนไทย สงสารศาสนาแห่งเหตุผล ที่ถูกพวกฉวยโอกาสบิดเบือนและเผยแพร่แต่เรื่องงมงายสารพัด ทุกอย่างเป็นหลักการตลาดที่หาเงินเข้ากระเป๋าเป็นหลัก เกิดธุรกิจสารพัดความงมงายออกมากล่อมให้ประชาชนในชาติฉลาดน้อยลงไปทุกวัน ขัดแย้งกับหลักแห่งเหตุผลที่ชาวพุทธควรจะมี พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัด "คนเขลามักคำนวนดวงดาวอยู่" ทำดีเวลาไหน ฤกษ์ดีเมื่อนั้น ไม่มีราหูครอบ หรืออมสากกะเบืออะไรทั้งนั้น นี่ผมพูดในฐานะชาวพุทธนะ แต่ถ้าใครจะเชื่อตามหลักของพราหมณ์ผมก็ไม่ก้าวล่วง และก็เคารพในความเชื่อของศาสนาอื่น แต่นี่ผมขอแนะนำคนในศาสนาที่ผมนับถือ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับพระพุทธศาสนา เพื่อที่จะมั่นคงสืบต่อไป 

น้องนัวเนียเป็นหมาที่น่ารัก และมีนิสัยเหมือนคน ไม่ดื้อไม่ซน ไปไหนมีแต่คนแปลกใจ ผมเห็นคนเห่อเปลี่ยนชื่อใหม่ เปลี่ยนเบอร์โทร เปลี่ยนอะไรสารพัด หลายคนเอาป้ายติดหน้าบ้าน เช่น บ้านนี้อยู่แล้วรวย นั่งมองหน้าลูกก็เลย เออ.. ถ้าเอาป้ายว่า หนูเป็นควาย มาห้อยลูกสาวเรา มันจะกลายเป็นควายไหมนะ?? แค่คิดก็ขำ เอามาถ่ายรูปมองกี่ทีก็น่ารัก น่าชัง และก็น่าจะเป็นรูปที่แดกดันสะกิดต่อมเหตุผลของคนที่กำลังหลงงมงาย ให้มีสติคิดได้มาบ้าง หมาก็คือหมา ติดป้ายอะไร ตั้งชื่อเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนอะไรให้แค่ไหน เอาอะไรมาห่อไว้ มันก็คือหมาอยู่ดี ต่อให้นิสัยมันดีแค่ไหน มันก็ยังเป็น "หมา" ไม่อาจเป็นหมีแพนด้า หรือกลายเป็นสัตว์อื่นได้ ภาพนี้คงทำให้หลายคนกลับมาตั้งสติ คิดได้ และมองเห็นว่า สิ่งที่เราทำมันเป็นเหตุผลหรือแค่ความเชื่อไร้สาระนอกเขตพระพุทธศาสนาเท่านั้น 

ถ้าชีวิตคนเรามันง่าย แค่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์ ติดป้ายหน้าบ้าน แล้วจะรวย จะโชคดีได้ ก็คงไม่ต้องมีกฎแห่งกรรม ไม่ต้องมีศาสนามาสอนให้เป็นคนดีหรอกมังครับ และการเป็นคนดียังเป็นแค่พื้นฐาน แต่ศาสนายังสอนลึกกว่านั้นคือสอนให้เห็นทุกข์ เห็นความจริง จนอยู่ในทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์ ไม่หลงติดกับดับแห่ง ลาภ ยศ และสุขทั้งปวง ผมสนใจศาสนาพุทธ ตั้งแต่ผมยังเป็นคริสต์ แล้วผมก็แปลกใจว่าสอนอะไรกัน ไปมากี่วัด มีบูชาเทพเจ้า มีราหูให้บูชา มีสอนทำบุญต้องทำเป็นคู่ ทำบุญด้วยน้ำตาลแล้วชีวิตจะหวาน ไหว้ด้วยขนุน จะหนุนนำ ทำบุตรตามกำลังวันเกิด และอีกสารพัด ที่บัดนี้ผมกล้าประกาศและเชื่อมั่นสุดหัวใจเลยว่า ทุกสิ่งไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า และไม่ควรใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้

หลายอย่างเป็นแค่กุศโลบายของครูบาอาจารย์ที่ท่านเอาไว้สอนคนโง่ กับคนกิเลสหนาเท่านั้น เพราะคนพวกนี้จะเข้าใจหลักธรรมได้ยาก อย่างน้อยหลอกให้มันรู้จักทำบุญบ้างก็ยังดี แต่เวลาผ่านมานาน สิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นผลเสียต่อพระศาสนาอย่างร้ายแรง เหมือนที่ท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้ประมาณว่า พระพุทธรูปบังพระพุทธเจ้า คัมภีร์บังพระธรรม ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันแสดงให้เห็นชัดว่า เป็นจริงตามที่ท่านพูด และคนเข้าถึงแก่นศาสนาห่างไกลกันทุกที ทุกวันนี้ก็ยังยินดีกับการสวดมนต์แบบนกแก้วนกขุนทอง แปลไม่ออก สวดจนเมื่อยก้นกบ สวดจบคิดว่าโอ้ได้บุญเยอะเหลือเกิน ได้รักษาสิ่งที่ถูกต้องตามคัมภีร์ ได้รักษาพุทธวจน แต่กลับไม่ได้ซึมซับในแก่นแท้ของบทสวดนั้นเลย 

นึกไปถึงข่าวผู้ชายทาเล็บ ทาปากแดง เขียนป้ายหน้าบ้านว่า บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย หรืออะไรอีกสารพัด ขำแทนผีเลยนะ ถ้าผมเป็นผีจะมากินตับคนบ้านนี้ ผมคงเข้าบ้านนี้ก่อนเลย ข้อหาดูถูก หาว่าผีอย่างกูนี่โง่มากใช่ไหม?? เด็กปัญญาอ่อนยังดูออก ต่อให้แต่งหน้าเป็นผู้หญิง ก็รู้ว่านี่ผู้ชาย แล้วคิดว่า ผีที่มีฤทธิ์จะมาทำร้ายคนได้ จะโง่ขนาดดูไม่ออกเลยหรือ เห็นแล้วก็สังเวชใจในความคิดของคน คิดจะหลอกผี ก็ทำแบบปัญญาอ่อน ที่แท้ก็หลอกตัวเองนั่นแหละ เพราะทำแล้วรู้สึกดีแค่นั้นเอง 

การเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์โทร เปลี่ยนอะไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นมงคลอะไรหรอก เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่มีผลกับชีวิตคน มันแค่หลักสถิติเท่านั้น มันจะมีผลจริงแบบวิทยาศาสตร์ ก็เช่น เปลียนแล้วจำง่ายขึ้น หรือชื่อเก่า มันฟังไม่เพราะ เรียกแล้วคนฟังรู้สึกไม่ดี มีความหมายในเชิงลบ ยกตัวอย่าง ดาราที่ตั้งชื่อแปลก เปลี่ยนชื่อแล้วได้ผล เช่น โตโน แกงส้ม นัททิว ถ้าเกิดใช้ชื่อ โต ส้ม นัท ถามว่าจะมีคนจำได้ง่ายกว่าทุกวันนี้หรือไม่ เบอร์โทรก็เหมือนกัน ถ้าเป็นเลขสวย เป็นเบอร์จำง่าย มันมีผลต่อธุรกิจ เพราะการจะระลึกถึง จะสั่งสินค้า จะติดต่อมันก็ง่าย และหลายอย่าง มันทำให้คนที่ได้พบเห็นรู้สึกดี เช่น เห็นเบอร์โทร เลขตัวเดียวทั้งแถว ใครเห็นก็ต้องเดาได้ไม่ยากว่า นี่ต้องคนมีฐานะแน่ๆ ทำให้การเชื่อใจในการค้าขาย หรือสร้างความเชื่อมั่นรู้สึกดีกับเจ้าของเบอร์นี้ได้ง่ายกว่า เบอร์เลขมั่วไปหมด นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ เป็นเศษเสี้ยวของสิ่งที่อยากเล่าเท่านั้น

ในความจริงยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ที่มันเปลี่ยนแล้วเป็นประโยชน์จริง แต่มันไม่ใช่เรื่องของดวง แต่เป็นความเหมาะสม คล้ายพวกหลักการตลาด หลักการโฆษณา หรือหลักจิตวิทยาการขายนั่นแหละ ถ้าจะเชื่อเรื่องพวกนี้ ให้เชื่อแบบมีเหตุผล เชื่อแบบหลักชาวพุทธ ไม่ใช่แปลงสัญชาติกลายเป็นพราหมณ์กันหมด อะไรก็เชื่อดวงดาว ต้องถวายของเป็นคู่ ถวายให้ตาย หากไม่ทำตัวให้ดี ไม่ดูแลแฟนให้ดี มันจะมีชีวิตคู่ที่ดีได้ยังไงหละครับ ศาสนาพุทธกลายเป็นศาสนาแห่งพิธีกรรม โลภในบุญ บ้าดวง บ้าเครื่องลางของขลัง หลงไปกับสิ่งที่ไม่ใช่สาระ แทนที่จะตั้งมั่นทำความดี เปลี่ยนแต่สิ่งภายนอก มันไม่ช่วยให้ดวงดีขึ้นหรอกครับ ดวงจะดีได้จริง ชีวิตจะเป็นมงคลได้จริง พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้ว ในมงคล 38 ประการ ทำตามนั้น รับรองว่าไม่ต้องไปทำพิธีกรรม ไม่ต้องไปห้อยอะไร ทำอะไรให้ยุ่งยากทั้งนั้น สรุปลงทั้งหมดทั้งมวล คือ ถ้าอยากได้ชีวิตดีๆ ถ้าอยากให้หมดเคราะห์ หมดโศรก อยากให้ดวงดี เราต้องเปลี่ยน "สันดาน" เท่านั้นครับ

สำหรับท่านที่อยากเปลี่ยนดวงตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ต้องไปพึ่งหมอดู หรือใครทั้งนั้นก็ได้นะครับ ลองอ่านบทความเหล่านี้ให้จบ แล้วคุณจะพบเส้นทางแห่งความสุข ที่เกิดในชาตินี้ได้ทันตา และนำพาไปสู่ชาติหน้าที่รุ่งเรืองได้จริง มีเหตุมีผลไม่งมงาย ทดสอบทดลองมาเป็นเวลาหลายปี แนวทางนี้น่าจะดีและง่ายสำหรับคนทั่วไปด้วยครับ 

// การสวดมนต์ 

https://archive.org/download/jochokrub_hotmail_JZ57/Pray57.pdf

// ทำบุญแก้กรรม 

https://archive.org/download/jochokrub_hotmail_JZ57/KJZ57.pdf 

// รวมประสบการณ์ทางจิต 

https://archive.org/download/jochokrub_hotmail_JZ57/JZ57.pdf 

ติดตามดาวน์โหลดเสียงอ่านของผมได้ที่

http://www.jozho.net/index.php?mo=2&c_art=32616 

แนะนำ CD ชุดที่ 1 นะครับ ไม่ควรพลาด // 

แถมอีกนิดนะครับ การเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์ หรือทำอะไร มันไม่ได้ผิดไปทั้งหมดนะครับ มันต้องดูที่เจตนา บางคนเขาชื่อไม่เพราะ เขาก็อยากเปลี่ยนให้มันดูดีสมฐานะ และหน้าตาในสังคม บางคนอยากหลีกเลี่ยงจากวงศ์สกุลของตัวเอง เพราะไม่อยากให้พี่น้องต้องมาแปดเปื้อนด้วย อีกหลายเหตุผลครับ ที่ทำไปเพื่อให้เกิดประโยชน์และความสบายใจ แต่ถ้าหวังเปลี่ยนเพราะอยากดวงดี อยากรวย อยากอะไรที่มันงมงาย 

นั่นจึงถือว่า เป็นการทำที่ไม่ควรทำครับ แต่ถึงทำก็ไม่ผิดอยู่ดี แต่มันแสดงให้เห็นว่า เรายังห่างไกลพระธรรมแค่ไหน เหมือนที่ผมทำสีผมนั่นแหละ หลายคนอาจจะคิดว่า ธรรมะบ้าอะไร ทำหัวซะสีแรงมาก แต่น้อยคนจะเข้าใจว่า อาชีพผม ลุคของผมมันเป็นแบบนี้ ภาพที่อยากให้ปรากฎกับเด็กวัยรุ่น และต้องการสื่อให้คนเห็นว่า สภาพภายนอกกับภายใน และการใฝ่ธรรมะ มันไม่ได้เกี่ยวกัน ซึ่งคนต้องรู้จักพิจารณาจริงๆ ถึงจะเข้าใจครับ ส่วนใหญ่ มักจะตีความอะไรด้านเดียว