http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,588,948
Page Views22,674,355
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

แม่ต้อยตัวจริง เด็กๆทีต้องการความช่วยเหลือด่วน

(อ่าน 1917/ ตอบ 1)

jozho

"บ้านโฮมฮัก"อบอุ่นด้วยรักแต่แร้นแค้น





“บ้าน โฮมฮัก” เป็นบ้านแห่งความรักของเด็ก ๆ นับร้อยชีวิตที่มาอาศัยพักพิงในยามที่ไม่เหลือใคร เด็กๆ ที่นี่มีทั้งเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์จากพ่อแม่  เด็กกำพร้าไม่ติดเชื้อแต่ถูกชุมชนผลักไสด้วยความรังเกียจ เด็กที่พ่อแม่มีปัญหาไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เด็กที่มีปัญหายาเสพติด เด็กบางคนมาด้วยหัวใจที่แตกสลายพร้อมกับร่างกายที่บอบช้ำจากการกระทำ ทารุณกรรมของผู้ใหญ่  เรื่องราวของเด็กบางคนดั่งนิยายที่กรีดกระชากใจผู้ที่ได้รับรู้



เด็ก ที่นี่มีทั้งหมด 104 ชีวิต ตั้งแต่อายุ 4 วันไปจนถึง 20 ปี บางรายถูกพ่อแม่เร่ขายให้ไปเป็นขอทาน  บางรายกำลังถูกขายไปเป็นหญิง*** และอีกหลายกรณีที่สะเทือนใจ อาทิ



กรณีของน้องส้ม (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 3 ขวบ แววตาสดใสน่ารัก แต่โดนผู้ใหญ่ใจโหดร้ายป้ายบาดแผลทั้งร่ายกายและจิตใจให้เธอด้วยการข่มขืน  เธอมาในสภาพอวัยวะเพศฉีกขาด จิตใจบอบช้ำ ซ้ำร้ายเธอติดเชื้อเอดส์



หรือ กรณีของน้องโฟร์ (นามสมมุติ)  พ่อแม่เสียชีวิตเพราะเอดส์ เธอเองก็ได้รับเชื้อเช่นกัน  บ้านเธอยากจน ยามหิวโหยก็เคี้ยวข้าวสารประทังชีวิต เพราะไม่มีใครดูแล  มีวัดใกล้บ้านเธอจึงไปขอเศษข้าวเศษแกงประทังชีวิต แต่ซ้ำร้ายโดนพระใจโฉดข่มขืน ทุกวันนี้ร่างกายเธอแคระแกรนเพราะขาดสารอาหาร และเอดส์ทำให้เธอมีอาการชักหลายครั้ง จนมีผลทางสมองทำให้เธอพัฒนาการช้ากว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกัน







“แม่ ต้อย”  ของเด็ก ๆ  หรือ สุธาสินี น้อยอินทร์ หญิงเหล็กหัวใจแกร่งที่มีความตั้งใจงานเพื่อสังคมมาโดยตลอดนับตั้งแต่เรียน จบ  จากจุดเริ่มต้นที่ได้ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเด็ก โดยไม่รับเงินเดือน



จน กระทั่งมาตั้ง “มูลนิธิ สุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน” อยู่ที่เลขที่ 3 หมู่ 12 บ้านประชาสรรค์ ต.ตาดทอง อ.เมือง ยโสธร โทร                                                                                                            0-4572-2241



แม่ต้อยก่อตั้งบ้านโฮมฮักมา 20 กว่าปีแล้ว  แต่จดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา  เป็นพินัยกรรมเพื่อความอยู่รอดของเด็กๆเมื่อเธอต้องจากไป ทรัพย์สินทั้งหมด บ้าน รถ ที่ดิน มรดก ของพ่อแม่ก็ขายหมดมาเป็นค่ายา ค่าอาหาร ค่าเทอม ค่าน้ำ ค่าไฟ ของเด็ก ๆ ที่สูงถึงเดือนละ 4-5 แสนบาท สุดท้ายแม้กระทั่งสร้อยที่ใส่ติดคอยังต้องขาย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้เด็กๆ ซึ่งเปรียบเสมือนลูกๆ  ของเธอก่อนเมื่อเปิดเทอม



แม่ต้อย เล่าว่า บ้านโฮมฮักเป็นบ้านหลังที่อบอุ่นเพื่อเด็ก ๆ ที่ยากไร้  ขาดที่พึ่งพิง เราอยู่กันด้วยความรัก แต่แร้นแค้น  ปัจจุบันขายสมบัติจนหมดเกลี้ยงตัว  แม้จะมีเงินบริจาคเข้ามาแ?่ก็ไม่พอ เด็ก ๆ ที่บ้านโฮมฮักต้องช่วยเหลือกัน แบบพี่ดูแลน้อง ปลูกผัก หาแมลงกินประทังชีวิต แต่ด้วยความแห้งแล้งก็ยากลำบากเหลือเกิน แค่น้ำใช้อาบทั้งบ้านก็ไม่พอ จะเอาน้ำที่ไหนไปรดผัก  แมลงที่หาได้ต้องเอาไปคั่วแล้วป่น โรยข้าวเพื่อให้พอกินกันทั้งบ้าน  เด็กก็มีแต่ตัวเล็ก ๆ   บางส่วนก็ป่วย บางส่วนไปโรงเรียน  ที่โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องดูแลน้องตัวเล็ก ๆ ที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้  และบางคนก็ต้องพยาบาลน้องๆ  ที่เจ็บป่วย



" ที่น่าเศร้าใจคือสังคมยังมีการเลือกปฏิบัติและอคติต่อผู้ติดเชื้อเอดส์  เมื่อส่งเด็กไปโรงเรียนต้องหาโรงเรียนที่ไกลออกไป  บางครั้งเมื่อรู้ว่าเด็กมาจากที่นี่  พ่อแม่ ผู้ปกครองก็ประท้วงให้ไล่เด็กออก  เพราะสังคมยังขาดความเข้าใจว่าไม่สามารถติดเชื้อจากการอยู่ร่วมกัน แต่ติดทางเลือดและการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น  ทำให้ไม่เข้าใจเด็กเหล่านี้ว่าป่วยแค่ร่างกายแต่ยังมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด  ร้องไห้ได้เหมือนกับเรา เด็กเหล่านี้โดนมองเหมือนเป็นตัวประหลาดที่ไม่มีใครอยากเฉียดกรายเข้าใกล้    ขนาดเหลือแต่ร่างไร้ลมหายใจจะเผาในวัดยังไม่ได้ ชาวบ้านกลัวขี้เถ้าฟุ้งไปในอากาศตกหลังคาบ้านแล้วจะติดเอดส์กันทั้งหมู่บ้าน " แม่ต้อย เล่าทั้งน้ำตา





มี เด็กระยะสุดท้ายที่แพทย์พิพากษาว่า อยู่ได้อีกไม่ถึงเดือน หรือ 2 เดือน  กับเด็กที่แพทย์หยุดยา เพราะดื้อยาแล้ว ส่งมาอยู่รอความตายที่นี่  แต่ด้วยความรัก ความอบอุ่น และบรรยากาศที่ดูแลกันเหมือนพี่น้อง เด็ก ๆ หลายคนกลับมีชีวิตอยู่ได้เกินกำหนดที่แพทย์บอก  เช่น น้องก้อง (นามสมมุติ)  มาตอนอายุ  8 เดือน ซึ่งหมอไม่รักษาแล้ว เพราะเชื่อว่าอยู่ได้อีก 2 เดือน แต่ตอนนี้น้องก้องสุขภาพแข็งแรงดี อายุ 12 ขวบแล้ว ช่วยพี่ๆ  รดน้ำผักทุกวัน





แต่ตอนนี้ผักปลูกได้น้อย แมลงหาจนไม่มีให้หาแล้ว  ข้าวกินได้ครึ่งท้องเพื่อแบ่งอีกครึ่งให้น้อง ๆ ซ้ำร้ายแม่ต้อยของเด็กกำลังป่วยด้วย “มะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย”



ซึ่ง หมอบอกว่าเธอจะอยู่ได้อีกไม่เกิน 6 เดือน   แต่หัวใจแม่เกินร้อยที่เธอมอบให้เด็กๆ ทำให้เธอสู้  บางคืนเธอถูกรุมเร้าด้วยอาการปวดที่ไม่ได้พักผ่อนจากการทำงานหนัก



พอ ช่วงกลางคืนถึงกับนอนไม่ได้  ต้องลุกออกมาเดิน หาก ใครไปบ้านโฮมฮักไม่รู้คนไหนแม่ต้อยละก็ ให้สังเกตที่ข้อเท้าจะมีกระดิ่งเป็นลูกกระพรวนห้อยไว้ เพราะยามเธอออกมาเดิน เด็ก ๆ ได้ยินเสียงกระดิ่งจะได้ไม่กลัวคิดว่าเป็นผี ...



แต่ จะมีวันไหนที่แม่ต้อยไม่ลุกออกมาเดินอีกแล้วก็ไม่รู้ !?! แล้วเด็ก ๆ จะอยู่กันได้อย่างไร ต้องกำพร้าครั้งที่สองในชีวิตกันอีกแล้วหรือ ?



ปัจจุบันบ้านโฮมฮักกำลังประสบภาวะขาดแคลนทุนทรัพย์ อย่างหนัก  และยังขาดครูพี่เลี้ยง  ขาดเจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่ทยอยถอนตัวออกไป เราลองมาช่วยกันสร้างปาฏิหาริย์ให้บ้านโฮมฮักเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ถูกทอดทิ้ง ใครที่เคยคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นส่วนเกิน  เป็นส่วนที่ต้องกันไว้ให้อยู่อีกโลก  เป็นอีกชนชั้นของสังคม ก็น่าจะมองกันใหม่ เพราะพวกเขาเป็นเพียงเด็ก เป็นชีวิตที่ไร้เดียงสา แววตาบริสุทธิ์ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ยัดเยียดให้  เด็กน้อยเหล่านี้เกิดมาจากปัญหาที่พวกผู้ใหญ่สร้างขึ้นทั้งนั้น



ถ้า หากใครได้ไปสัมผัสเยี่ยมเยือน เด็กๆ ที่บ้านโฮมฮัก จะเห็นแววตาที่สดใส ร่าเริง ทุกคนจะดีใจที่มีพี่ๆ ไปเยี่ยม ยิ่งถ้าไปเล่นไปสัมผัสเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยจิตกุศล ด้วยความรักก็เหมือนได้ต่อเติมชีวิตอันสดใส จากเด็กที่ไม่ลุกเดิน ซึมเศร้าเหม่อลอย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม  เมื่อเห็นผู้มาเยี่ยมเยือนจะดีใจ ลุกขึ้นมาต้อนรับ มีรอยยิ้ม เพราะนานมากแล้วที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ค่อยมีใครไปเยี่ยมเยือน



“พี่ ๆ จะกลับมาหาพวกหนูกันอีกมั๊ยคะ”



“พี่หนูอยากได้เสื้อสีแดงไว้ใส่  หนูจะได้ใส่ก่อนตายมั๊ยคะ”



และ อีกมากมายคำพูดอันเสียดแทงหัวใจพี่ๆ ทุกคน อยากให้สังคมได้รับรู้ ก่อนจากกันโบกมือลาด้วยน้ำตา และแววตาของเด็ก ๆ ที่มองรถจนลับตาพร้อมกับความหวังว่า จะมีใครมาเยี่ยมเยือนและนึกถึงพวกเขาเหล่านั้นกันอีกบ้าง…



สำหรับผู้ มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือเด็ก ๆ โอนเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายโสธร ชื่อบัญชี มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน เลขที่ 561-2-21187-7

                                        



หรือจะบริจาคเสื้อผ้า หนังสือการ์ตูน หนังสือเรียน ของเล่น และสิ่งจำเป็นได้ตามจิตศรัทธาเป็นของใหม่หรือของใช้แล้วก็ได้  เพราะของที่ท่านไม่ใช้แล้วยังมีค่ากับเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างมาก


ผู้แสวงหา

เคยได้ทราบข่าวจากรายการทีวี ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นรายการ \"คนค้นคน\" ใช่มั้ยครับ


ปัจุจุบันก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการเลยใช่มั้ยครับ


ผมจะช่วยเป็นสื่อประกาศไปยังผู้มีจิตศรัทธาให้ช่วยเหลือกันอีกแรง

Page : 1
Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view