http://www.jozho.net
   
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 19/11/2007
ปรับปรุง 05/02/2023
สถิติผู้เข้าชม14,603,692
Page Views22,690,994
Menu
หน้าแรก
งานบรรยายโดยโจโฉ
เกี่ยวกับ&ที่มา..โจโฉ
ตัวอย่างภาพกิจกรรม
รวมเสียงโจโฉ
สนับสนุนโจโฉ
บทความโดยโจโฉ
ติดต่อโจโฉ
เลือกดาวน์โหลด
แนะนำ
มาใหม่ล่าสุด
บอกเล่าเก้าสิบ
สวดมนต์ สมาธิ
Video ธรรม
ข่าวร้อน
.
 

กำลังใจเล็กๆ ถวายหลวงพ่อปราโมทย์

(อ่าน 4453/ ตอบ 24)

yue


ขอให้ชาวพุทธยึดมั่นคำสอนของพระพุทธเจ้า  และเป็นกำลังใจให้หลวงพ่อปราโมทย์ด้วยนะคะ

ธรรมะที่ได้รับจากการถ่ายทอดของหลวงพ่อมีคุณค่ามากมายมหาศาลหาที่เปรียบไม่ได้

การเป็นผู้ตื่นแค่บางขณะจิตนั้นมีความสุขมากมายแล้ว  (แต่ตื่นเยอะย่อมดีกว่านะคะ)

จากผู้ศึกษาธรรมะที่ส่วนมากจะหลับมากกว่าตื่น

อ.พ.

เมื่อวาน (วันอาทิตย์ที่ 27) นสพ มติชน ลงสกู๊ปประวัติ(ย่อ ๆ) ของคุณอ้อย ลงรูปใหญ่เบ้อเริ่ม เด่นเป็นสง่าเชียว
หลงเข้าไปอ่านดู (ที่ว่าหลงไปเพราะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่อ่าน เพราะเดา ๆว่าน่าจะเป็นการโปรโมทคุณงามความดีอะไรทำนองนี้ เพื่อรักษาอาการหน้าแตก)
อ่านจบ(ข้อมูล1 หน้าเต็ม ๆ) ก็ไม่รู้ว่าเขาจะสื่ออะไรแน่ แต่ที่สะดุดใจ เขาบอกว่าเขาถูกเอาเปรียบเรื่องทางวัดตัดไฟบ้านเขา  งงค่ะ

ใบปอ

ในที่สุด DSI ก็ออกมายืนยันซะที .... อืดอึดใจแทบแย่
ดูข่าวแล้วแทบร้องไหเลย...

เนยยะ

ได้ฟังข่าวแต่ไม่ได้ติดตามค่ะ คิดว่าไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงก็ไม่ทำให้เราหลุดพ้น
หลวงพ่อเคยสอนอยู่ประโยคหนึ่งว่า "ถ้าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจริง ไม่ต้องไปดูใคร ดูแค่กายกับใจตัวเองพอ" ยังจำไว้ปฏิบัติเสมอค่ะ

โจโฉ

ธรรมะจัดสรร ให้มีข่าวแอนนี่ กับฟิล์ม ครับ
เลบกลบข่าวทุกข่าวเดี้ยงเลย   555

สาแก่ใจยิ่งนัก.. ที่พวกปองร้ายไม่ได้อย่างใจ
เพราะพยายามกระพือข่าวเท่าไร ก็ไม่ได้ผล

มีแต่คนสั่งซีดีหลวงพ่อเพิ่ม 
และมีคนรู้จักหลวงพ่อมากขึ้น  หลายคนก็เลยมาลองฟังคำสอนว่าผิดหรือเปล่า

มีพระจากหลายวัด สั่งผลิตซีดีหลวงพ่อไปแจก

ทีน่าประหลาดใจคือ วัดที่อุดร ซึ่งเป็นศิษย์หลวงตา ท่านก็ขอซีดีหลวงพ่อครบชุดมา


ไปๆ มาๆ  .. ผมว่า จากร้ายกลายเป็นดีอะคับ


แล้วก็มีคำสงสัยจากคนมากมายถึงผมว่า

คนดีๆ ที่ไหน ที่เขาบริจาคเงินแล้วมาทวงคืน
คนจนๆ  เขาเผลอทำบุญกับพระไม่ดีแถวๆ บ้าน  เขาก้แค่โทษตัวเองว่า ดันโง่เอง หลงทำบุญกับพระปลอม
เกิดมา ยังไม่เคยเจอเลยที่ คนจนๆ คนดีๆ จะมาทวงเงินที่บริจาคไปแล้วคืนอะคับ

อันนี้เขาพูดกันเน้อ.. ผมไม่ได้ว่าใคร ไม่ได้กล่าวร้ายใคร

ในแง่มุมของผม

ไม่ว่าเป็นใคร ผมเลือกสรรเสริญและมองแต่แง่ดีของเขา

พี่ใหม่ใจดี ก็ยังเป็นพี่ใหม่ใจดีในสายตาผมเสมอ และเขาก็ทำดีมามากมาย
คุณดนัย ก็ยังเป็นนักธุรกิจที่ผมชื่นชม ว่าทำสิ่งดีๆ ให้กับสังคมมากมาย
คุณอ้อย ก็เป็นคนดีที่ทำให้ผมได้ฟังคำสอนหลวงพ่อจากเสียงอ่านของเธอ และหนังสือของเธอก็ช่วยคนได้มากมาย
แล้วก็ใครต่อใครอีกหลายคน 


หากเรามองแต่แง่ดีของพวกเขา เราจะไม่รู้สึกอะไรเลย  ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ปัจจุบันจะเป็นอย่างไร
เรามีแต่ความสุข ที่ได้ชื่นชมในความดีของพวกเขา


แล้วก็กลับมาภาวนาในแนวทางของเราต่อ

พอเห็นใครไม่ดี จะไปเดือดร้อนทำไม

ก็มองให้เห็นธรรมะจริงๆ ว่า..

คนดีย่อมทำดี คนชั่วย่อมทำชั่ว
แล้วมันแปลกตรงไหน ถ้าคนชั่วจะทำชั่ว เขาก็ทำหน้าที่ของเขา
คนดีก็ทำดี เขาก็ทำหน้าที่ของเขา ถูกต้องเหมาะสมกับฐานะและภูมิจิตของเขาแล้ว

เราจะไปใส่ใจ ไปห่วงคนอื่นทำไม  โกรธก็ไม่ได้อะไร  ชื่นชมก็ไม่ได้อะไร
สุดท้าย เราก็ต่างคนต่างตาย  สะสมบุญบาปไว้แค่ไหน ก็ไม่มีใครช่วยเราได้

นอกจากตัวเราเอง...


หลายคนโทรมาหาผม แล้วแปลกใจว่า ทำไมผมไม่รู้สึกไรเลยเหรอ
ผมว่า ช่วงเวลานี้ เราต้องห่วงตัวเองกันแล้วหละครับ

หลวงพ่อและคนอื่นๆ ท่านสบายไปหมดแร้ววว... 
ทุกอย่างธรรมะจัดสรรให้เหมาะสมกับน้ำหนักของกรรมเสมอครับ

แล้วต้องท่องไว้ว่า

คนดีเขาก็ต้องทำดี คนชั่วเขาก็ต้องทำชั่ว
ทุกคนต่างมีหน้าที่ของตน ตามสันดานของตน 

นี่คือการมองให้เห็นธรรมชาติ หรือธรรมะ 
มองให้เห็นความธรรมดาของความเป็นจริง บ่อยๆ
มันก็จะปล่อยวางได้เอง  แล้วก็จะไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย


ผมเอง ยิ่งเจอปัญหา ยิ่งผ่านอะไรมาเรื่อยๆ
ก็เริ่มรู้สึกว่า ปลงได้เรื่อยๆ  ปล่อยได้เรื่อยๆ

ตอนนี้ แม้จะขี้บ่น แม้จะดูเจ้าโทสะ แม้จะดูบ้าๆ บอๆ  หรือแสดงออกแปลกๆ ก็เหอะ
แต่ข้างในผมรู้ตัวผมดีว่า

วันนี้ ผมไปอยู่ป่าเขาที่ไหนก็ได้ ผมได้หลักของผมแล้ว
แล้วผมก็มีชีวิตอยู่เพื่อภาวนา เพื่อปฏิบัติตนให้พ้นทุกข์เป็นหลักแล้ว

ส่วนเรื่องอื่น ผมเห็นเป็นงานรองแล้ว
นั่นเลยทำให้ผมไม่เดือดร้อน ไม่ว่าใครจะสนับสนุนหรือไม่

แต่หลายคนกล้บสงสารผม แล้วก็คิดว่าผมทุกข์ซะมากมาย
ทุกวั้นนี้ ผมทำงานอย่างมีความสุขนะครับ
ทำแบบไม่ยึดแล้วว่า จะไปถึงไหน อย่างไร

คือ เราเจอแสงสว่างแล้ว เราเจอทางของเราแล้ว
มันจบแล้วอะคับ 

ที่เหลือคือแค่ความเพียร และฝ่าฟันต่อไป
จะพยายามก้าวเดิน และต่อสู้กับอุปสรรค ให้ได้
และก็รู้ด้วยว่า ทางของผมอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่ผมเชื่อว่า ผมจะอยู่ในทุกข์ได้โดยไม่ทุกข์ หรือทุกข์น้อยที่สุด
เหมือนที่คุณดังตฤณเคยอวยพรให้ผมไว้เมื่อหลายปีก่อนครับ


ทุกวันนี้ ก็ยังกราบระลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อปราโมทย์ และคุณดังตฤณทุกวัน ทุกค่ำคืน


ขอบคุณทุกกำลังใจและกำลังทรัพย์ที่สนับสนุนผมมาด้วยนะครับ

รักนะ จุ๊บๆ     555

yue

ตอนนี้ข่าวของหลวงพ่อท่านเป็นอย่างไรบ้างคะ  ตอนนี้ไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่ยังส่งกำลังใจมาอยู่ ช่วยupdate ด้วยนะคะ

โจโฉ

เมื่อวาน ข่าวข้นช่อง 9 กับ ข่าวดึก ไทยpbs ทำข่าวได้แบบขาดจรรยาบรรณมากมาย
อ่านข่าว สรุปข่าว ตามแนวผู้กล่าวหา โดยไม่เอาข้อโต้แย้งมาอ่าน
และก็ไม่ศึกษาให้จริงเลย  พยายามน้อมข่าวไปให้ผู้ฟังเชื่อว่า หลวงพ่อผิด

ทั้งการพูดถึง ทั้งการสรุป 

พูดได้คำเดียวว่า สมัยนี้ จรรยาบรรณสื่อ คงไม่เหลือแล้ว

แต่ต้องขอยกย่องชมเชย ข่าว 3 มิติ วันก่อนที่ดู 
คุณกิตติ สรุปและนำเสนอประเด็นที่เป็นกลางมาก

รายการ Tpbs เมื่อคืน เป็นรายการพิเศษ ก็เชิญมาแต่ผู้กล่าวหา
แต่แอบดีใจ ที่เชิญพระที่เป็นกลางไปด้วย

แล้วท่านพูดดีมาก  เป็นกลางมากๆ  เลยทำให้ฝ่ายโจมตีรู้สึกเจื่อนๆ ไปเหมือนกัน


ผมดูชื่อกลุ่มรักพระศาสนาอะไรนั่น
แล้วผม งง อะคับ

คือ วัดที่ให้หวย  เสกของขลัง  ทุกกุฎิมีเครื่องเสียง  ไม่สำรวม  เชียร์มวยกันลั่น สักยันต์ พุทธพาณิชย์ และหลอกลวง
เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด

คนพวกนี้ไปไหน ทำไมไม่ช่วยกันรณรงค์
อย่างสำนักหลายสำนักที่สอนผิดหลักพระไตรเต็มๆ  จนเป็นลัทธิแล้วระบาดหนักเข้าไปถึงทุกมาหวิทยาลัยแล้ว

ทำไมคนพวกนี้ไม่เคยสนใจเลยหรือ  ปัญหาใหญ่จริงๆ เรากลับดองไว้ ซุกไว้ใต้พรหม
แต่กับหลวงพ่อ ซึ่งต่อให้ผิดจริงในประเด็นเหล่านั้น

แต่คำสอนของท่าน ก็ทำคนหมดทุกข์และได้ประโยชน์มากมาย
ผมคนหนึ่งละ ที่เกือบฆ่าตัวตัว หมดหนทางของชีวิต

ทุกวันนี้ได้แนวทางของหลวงพ่อ ถึงได้มีรอยยิ้ม มีความสุข และต่อยอดมาทำงานให้พระศาสนาได้ขนาดนี้

ทุกวันนี้ หลายวัด ยังไม่เคยสอนให้คนงมงาย ไหว้เทวดารักษาพระพุทธรูปด้วยซ้ำไป
ไหว้หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อขาว หลวงพ่อโต ฯลฯ  ดีนะ ศักดิ์สิทธิ์นะ มาทำบุญขอพรพระกัน สารพัด

แทนที่จะสอนให้ไหว้แล้วน้อมจิตนึกถึงพระศาสดา  แล้วปฏิบัติบูชาพระองค์ ไม่ใช่มานั่งขอพร
อีกเยอะอะ 

ที่ผมเห็นว่า  ทำไมชาวพุทธไม่รวมตัวกันต่อต้านสิ่งที่มันไม่ใช่ และมีอยู่ในวัดทั่วประเทศไทย
เท่าที่เห็น หลวงพ่อสอนเจริญสติ แล้วไม่เคยพูดเรื่องเงินทองเลย ไม่เคยเรี่ยราย ไม่เคยสนใจเงินทอง
มีแต่คนจะเอาไปประเคนให้ท่านเอง 

คนอยากจะทำบุญกับท่าน ไม่ใช่ทำง่ายๆ 
ไม่เหมือนวัดทั่วไป ที่เน้นแต่ให้คนบริจาคเงิน 

พอมีประเด็นถูกโจมตีเรื่องเงิน  เหล่าศิษย์เลย ขำกันเป็นแถว

เรื่องอุตริฯ ก็นะ  ไม่ยอมดูความจริงหรอกว่า..


หากเข้าใจผิดว่าตนเองบรรลุ  ไม่อาบัติ
หากเล่าผลการปฏิบัติให้ผู้ปฎิบัติด้วยกันฟัง  ไม่อาบัติ
หากบรรลุจริง  ก็อาบัติเพียงเล็กน้อย
แล้วมีข้อแยกย่อยไปอีกเยอะ 

น่าแปลก ที่ลูกศิษย์หลวงตาซะส่วนใหญ่ที่มากล่าวหาหลวงพ่อในประเด็นนี้
แต่กลับไม่ดูกรณีศึกษาว่า

หลวงตาท่าน ก็เคยถูกโจมตีเรื่องนี้เช่นเดียวกัน  ท่านก็มีบันทึกและอื่นๆ ว่าท่านบรรลุแล้ว
และศิษย์หลายคนก็ชอบพูดว่า หลวงตารับรององค์นั้นองค์นี้ ว่าสำเร็จแล้ว อะไรแล้ว
คือแล้วทำไม  จึงมากล่าวหาหลวงพ่อ  แต่พอเป็นอาจารย์ตัวเอง กลับรู้สึกว่าไม่ผิด

ผมไม่ได้ลบหลู่หลวงตา เพราะผมก็เคารพหลวงตา
และผมก็รู้ว่า วินัยหลายข้อ เขาใช้สำหรับพระใหม่ พระที่ยังไม่ถึงเท่านั้น
หลวงตาท่านเล่าผลการปฏิบัติให้ศิษย์ฟัง ซึ่งไม่ผิดวินัย

คนที่ไปทำบุญกับหลวงตา และหลวงพ่อ ผมก็เห็นเหมือนกันว่า
ทุกคนอยากทำ อยากทำบุญกับพระดี

โดยที่ทั้งสององค์ไม่เคยสนใจเรื่องเงินเลย ไม่เคยเทศน์เรื่องเงิน หรือให้ใครมาทำบุญ
ยกเว้นตอนหลวงตาทำผ้าป่าช่วยชาติ ท่านพูดเพราะต้องการช่วยชาติ
และเห็นว่าเป็นบุญใหญ่ ที่ใครได้ทำ ก็จะเป็นประโยชน์กับคนเหล่านั้น
ท่านไม่ได้พูดเพื่อหาเงินเข้าวัด หรือเข้าตนเอง


ประเด็นยิบย่อย ในข้อพระวินัย ต้องใช้ความละเอียดอย่างมาก ไม่ใช่แค่ต้องตามตัวหนังสือเป๊ะๆ

ให้สรุปรวมแล้ว


ยังไง ผมก็ว่า หลวงพ่อปราโมทย์ ยังมีประโยชน์ และดีกว่าหลายสำนัก หลายลัทธิอย่างมากมาย
ส่วนใครจะมองท่านไม่ดีอย่างไร ก็แล้วแต่ศรัทธา  มีสิทธิที่จะมองได้

เมื่อวานต้องยกมือไหว้พระในทีวี ที่มาเป็นคนกลางใน TPBS
เพราะท่านเน้นย้ำประโยคประมาณ

อืม.. จำไม่ค่อยได้หละ

แต่หมายถึงให้ใช้ความเมตตาต่อกันในการหาความจริง และก็.. ว้า.. ลืมหละ 555

สรุปคือ พระดี คนดี ต้องมาแนวนี้อะคับ  ฟังแล้วเป็นกลางสุดๆ แล้วก็ฟังแล้ว ผมต้องยกมือไหว้ท่านเลยทีเดียว
เสียดายจำฉายาไม่ได้ รู้แต่ว่า อยู่มหาลัยสงฆ์


กราบนมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพ ที่ทำให้ผมได้เห็นคนกลางที่บริสุทธิ์ และเป็นพระบ้านที่น่าเคารพจริงๆ

วิชญ์

ขอให้เรายึดมั่นในพระรัตนตรัย หลักธรรม คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าหวั่นไหวในสงฆ์ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ดูให้ถึงแก่น เข้าให้ถึงธรรม
แล้วเราจะเข้าใจเจตนารมณ์ที่แท้จริงของท่าน คนที่เชื่อตามข่าวคือคนที่ไม่เคยฟังธรรมของหลวงพ่อ ไม่รู้จักเสียด้วยซ้ำว่าหลวงพ่อปราโมทย์เป็นใคร มาจากไหน
คนเหล่านี้มีมิจฉาทิฐิ ขาดข้อมูล ขาดความรอบคอบ ไม่ใคร่ครวญ ไม่ไตร่ตรองก่อนเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

สื่อมวลชนส่วนใหญ่ แอบอิงการเมืองที่มีอำนาจ
ยึดแต่ผลประโยชน์ พวกพ้องและกระแสสังคม ไม่รักษาจรรยาบรรณในวิชาชีพ

เป็นกำลังใจให้ชาวพุทธทุกท่านครับ...คิดเสียว่าทุกอย่างมันเป็นเช่นนนี้เอง กายไม่ใช่ของเรา ใจไม่ใช่ของเรา

ตามรู้...ตามดู ต่อไปนะครับ


อรจิต

คือไม่ทราบรายละเอียดมากคะว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ว่าปฎิบัติมาที่หลวงพ่อสอนว่าแล้วเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกับชีวิตตัวเองมาก
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จะปฏิบัติต่อไปคะ

ปูไท

ปฎิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อต่อไปเถอะ ฃวากหนามมีอยู่  ปฎิบัติเอง เห็นเอง ถึงฝั่งเอง อย่าใส่ใจก้อนขี้หมาริมทางเลย

โจโฉ

เสียดายไม่น่าลบกระทู้ ที่เขามาโพสต์อีกอันหนึ่ง
คือตามมาราวี ถึงเวบผมเลย  ประมาณว่า กิเลสมันบังคับให้อยากรู้คำตอบ
อยากเห็นคนอื่นผิดตามอคติที่ตนเองมี

แล้วก็อ้างธรรมะ คิดว่าตนเองรู้จริง รู้ลึก เขาหาว่าผมและพวกเรานี่ โมหะ หลงผิด  555

แต่มันน่าขำที่เขากลับมองผมผิดแทบทุกอย่าง ไม่เข้าใจเจตนาผม
เพราะคนที่ต่อให้เข้าข้างอีกฝ่ายด้วยใจบริสุทธิ์  เขาก็จะไม่คิดและพูดหรือทำแบบนี้


ย้อนความว่า เขากล่าวหาว่า ผมเอาหนังสือหลวงพ่อไปแจกที่วัดป่าบ้านตาด
จนต้องมีประกาศผ่านลำโพงว่า ห้ามแจก

ผมอึ้งมากอะ  ว่าคนพวกนี้ ช่างเพ้อเจ้อ คิดฝัน และใส่ร้ายคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ขนาดผมคนตัวเล็กๆ  ยังใส่ร้ายกันขนาดนี้ ทั้งที่ผมไม่เคยคิดจะเอาหนังสือไปแจกที่ไหนเลย
เพราะธรรมดา แค่แจกซีดี ผมก็เหนื่อยจะตาย(ฮา) อยู่แล้ว

ดูนะ เรื่องแค่นี้ พวกเขายังเอาไปลือ เอาไปพูด เป็นเรื่องเป็นราว
ทั้งที่มันไม่มีมูลแม้แต่นิดเดียว

งานวันเกิดหลวงตา ที่ผมเห็นแจกหนังสือ ก็แค่คนกลุ่มหนึ่ง เอาใส่รถปิ๊กอัพมาเป็นคันรถ
นั่นเป็นหนังสือของ .. หลวงพ่อสงบ..
ซึ่งในความเป็นจริง หลวงพ่อสงบ ท่านไม่ได้สั่งให้ใครเอามาแจก(มั้ง)

แต่ก็เป็นความคิดของคนกลุ่มหนึ่ง ที่อยากนำเสนอในสิ่งที่ไม่ควรนำเสนอในเวลานั้น
วันเกิดหลวงตา แทนที่จะแจกของหลวงตา  ดันเอาคำสอนของลูกศิษย์มาแจก

วันนั้นผมเอาแผ่นพระคุณแม่ไปแจกด้วย
เพราะเชื่อว่า มันไม่ได้เกี่ยวธรรมะอะไร แล้วเป็นวันแม่ แถมมีเพลงหลวงตาอยู่ในนั้น
ผมก็คิดว่ามันไม่น่าเสียหายถ้าจะแจก ไม่ได้ถือวิสาสะ  เพราะเป็นวันแม่ แล้วมีเพลงหลวงตา
ส่วนอีกแผ่นเป็นแผ่นแถม นอกจากเสียงอ่านหนังสือหลวงตา เป็นหลักที่แจก
ก็คือแผ่นชุดที่ 1 ซึ่งมันใช้อบรมเยาวชน เป็นเรื่องสั้นและเพลง
เพราะในงานมีโรงพยาบาล มีวัด มีโรงเรียนมาเยอะ
ผมเชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคนเหล่านี้  ที่วัดถ้ำผาผึ้งก็ได้รับแจกแผ่นนี้ แล้วก็สั่งผลิตนำไปแจกต่อมาอีกด้วย
เป็นเรื่องพื้นๆ ที่เรียบง่ายและไม่เกี่ยวกับสายใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนแจกนิทาน
แล้วแต่แรกผมก็ไม่กล้าแจก แต่พี่ที่ชมรมเพื่อนคุณธรรมแนะนำว่า แผ่นนี้ดีมาก เอาไปแจกเหอะ
ไม่น่าจะเป็นอะไร  เป็นเรื่องดี แล้วไม่ใช่ของครูบาอาจารย์องค์อื่น ฯลฯ

แต่หากจะแจกคำสอนที่เป็นการปฏิบัติจริงๆ ผมก็คงไม่กล้าเอาของคนอื่นไปแจกแน่
เพราะแต่เดิมผมก้ไม่เคยแจกอะไรนอกเหนือจากเรื่องของหลวงตา
แต่คนกลุ่มหนึ่ง กล้าเอาคำสอนของพระองค์อื่นในการปฏิบัติ ไปแจก

แล้วกลับมากล่าวหาคนอื่นได้อย่างหน้าด้านๆ  ว่า... เอาหนังสือหลวงพ่อไปแจก จนโดนประกาศห้าม

ผมหละขำ.จริงๆ  นี่เหรอ ที่คิดว่าตนเองเข้าถึงธรรม จนปรามาสคนอื่น ดูถูกคนอื่นไปทั่ว
หาว่าคนอื่นหลง เข้าใจผิด  โดยไม่ยอมเข้าใจว่าธรรมะจริงๆ มันมีหลายสาขา
ถ้าคนเข้าใจจริงๆ  แม้แต่ศาสนาอื่น มันก็คือทางเดียวกัน เพียงแต่ต้องอ้อมยาวเท่านั้น

ตอนเขาประกาศห้ามแจกคำสอนครูบาอาจารย์องค์อื่น
ผมยังเดินเก็บขยะอยู่เลย แจกเสร็จไปตั้งนาน มาถึงตั้งแต่ตีสามกว่าๆ ก็แจกเลย
ไม่ทันฟ้าสว่างเท่าไหร่ ก็แจกหมดเกลี้ยงแว้ววว... 

ยังดันมากล่าวหาผมแบบหน้าด้านๆ ว่า เอาหนังสือหลวงพ่อปราโมทย์ไปแจก จนโดนประกาศห้าม
แล้วหาว่าผมชอบอ้างว่าเป็นลูกหลวงตา เลยถืออภิสิทธฺ

โถๆๆ... ผมอะไม่ได้คิดว่าผมเป็นลูก แบบนั้น
ผมแค่เคารพ แล้วไม่เคยเรียกหลวงตาว่าท่านพ่อเลยสักครั้ง ผมก็เรียกหลวงตาตลอด
ผมแค่น้อมนำพระมหาเมตตาของท่านมาเป็นแนวทางและใช้เพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์

ถ้าหากผมบวช ผมก็จะถือว่าผมเป็นลูกของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
ถึงเวลานั้นใครจะมาห้ามผมว่า ..แหม ชอบอ้างตัวเป็นลูกพระพุทธเจ้า เลิกซะทีเถอะ

ผมก็ งง กับคนพวกนี้...  คือมันไม่ได้อ้าง แต่เราน้อมตัวเป็นลูกท่าน เพื่อทำดีถวายท่าน
ถ้าพูดในแง่จริงๆ ไม่ได้สะเออะ จะไปเป็นลูกท่านจริงๆ ซักหน่อย
เหมือนที่คนเรียก ร.5 ว่าเสด็จพ่อนั่นแหละ 

ถามจริงๆ ว่าเขาเรียกด้วยความเคารพหรือว่าเขานึกว่าเป็นลูกท่านจริงๆ 
แล้วในความเป็นจริง ผมก็สละชีวิต และทำอะไรมาหลายอย่าง จนคิดว่าตัวเองมีดีมากพอ
ที่จะน้อมตัวเองถวายเป็นลูกท่าน น้อมความดีถวายท่าน

ก็ตัดไปเหอะ ผมก็อธิบายไม่เก่ง แล้วคนพวกนี้ ก็มีอคติกับผมมากเกินกว่าที่ผมจะอธิบาย
แค่ธรรมะพื้นๆ ยังไม่เข้าใจ ว่าอะไรคืออะไร  ยังมาแถไปแถมา หาว่าคนอื่นเขาหลงผิด

ถ้าอย่างนั้นก็เอาเวลาไปเปลี่ยนคนศาสนาอื่นด้วยเลยซิ ว่าเขาหลงผิด 

คนที่ปฏิบัติธรรมถึงจุด เขาจะรู้ว่า ไม่มีทางไหนหรอกที่ผิด 
ไม่มีสัตว์ตนใดพ้นกระแสพระนิพพาน

เมื่อวานพึ่งพิมพ์ตอบในเมล์ไป เขาหาว่า ติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็ไม่ต้องพูดถึง

ผมก็เถียงนะ

ธรรมะ มันเทียบกับกระดุมไม่ได้
แต่การผิดแต่ละครั้ง นั่นคือทางที่จะทำให้คนๆ นั้นรู้ว่าทางนั้นไม่ใช่ และหาทางที่ถูก
ไม่งั้น การที่ผมเกิดมาเป็นคริสต์ แล้วศึกษาอย่างจริงจัง จนเปลี่ยนเป็นพุทธ

ถามว่ากระดุมเม็ดแรกของผมผิดหรือเปล่า แล้วทำไมเม็ดต่อมา ผมจึงเปลี่ยนมาได้
เปลี่ยนมาเป็ฯพุทธผมก็ลองมาหลายสาย ผมก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนตัวเองมาเรื่อยๆ

ศึกษาปฏิบัติ พอถึงจุดหนึ่ง เราจะรู้เองว่า ใช่ไม่ใช่
ไม่งั้น คนที่อยู่ศาสนาอื่น เขาก็ไม่มีทางพ้นทุกข์เลยเหรอ

พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงเคยนับถือศาสนาอื่นมาก่อน เป็นพารมหณ์มาก่อน และเป็นอะไรมามากมาย
ถ้าเข้าใจศาสนา เข้าใจธรรมะจริงๆ


เราจะรู้ว่า ไม่มีสัตว์ตนใดพ้นกระแสพระนิพพาน
แม้แต่โจรชั่วคนหนึ่ง การเป็นคนชั่ว ก็คือทางบรรลุของเขา
ไม่ทำผิด ไม่ทุกข์ทรมาน ก็ยากที่จะมาเจอทางที่ใช่ ทางที่สุข

การทำผิด แม้แต่การตกนรก ก็จะเป็นจุดที่ทำให้เกิดจิตดวงที่อยากพ้นนรก
แม้ว่าต้องตกนรกแสนนาน แล้วเกิดใหม่ เผลอลงไปอีกหลายรอบ
จิตที่อยากพ้นนรกที่สะสมไว้หลายชาติ ก็จะเป็นจุดกระตุ้นให้รู้สึกหวาดระแวงความชั่วในชาติใดชาติหนึ่งข้างหน้า

จนเกิดมากลัวบาปเองแบบบอกไม่ถูก รู้สึกแต่อยากแก้ตัว รู้สึกเชื่อในเรื่องนรก โดยที่ไม่มีใครสอน หรือสอนก็ตาม
แม้ไม่เคยเห็นนรกในชาติปัจจุบัน แต่ก็กลัวอย่างบอกไม่ถูก

เรื่องธรรมะ มันยาว มันลึก  เกินกว่าที่จะมาบอกว่า 1+1 = 2   มันมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น 
ไม่ใช่มานั่งเถียงว่า 4-2 จะเท่ากับ 2 ไม่ได้ 

หากจะเข้าใจธรรมะจริงๆ  รับรองได้ว่า ทุกคนจะเห็นแนวทางของคนอื่น ศรัทธาของคนอื่น เป็นสิ่งสวยงาม เป็นทางของเขา
แต่คนที่ศึกษาแล้วหลงทาง คือพวกที่ศึกษาแล้วยึด

ยึดแต่คำสอนของครูบาอาจารย์ตนเท่านั้นที่ถูกต้อง แนวทางตนเท่านั้นที่ถูกต้อง
ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งยึด ยิ่งสุดโต่ง  ทางคนอื่นผิดหมด ทางคนอื่นไม่ใช่
ต้องปฏิบัติศึกษาเชื่อแบบเรานี่ซิ ถึงจะถูก ถึงจะใช่

นอกนั้นเป็นพวกหลงผิดหมด


เหนื่อยแทนคนพวกนี้อะ     ตราบใดยังไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในคำว่า ไม่มีสัตว์ใดพ้นกระแสพระนิพพาน

รับรองได้ ก็เถียงกันไม่เลิก ทำร้ายกันไม่เลิก เหยียดหยามดูถูกกันไม่เลิก



ก็ขนาดผมไม่เคยเอาหนังสือใครไปแจกเลย  เขายังสร้างภาพจนเห็นผมไปแจกหนังสือได้ และร่ำลือกันต่อไปจนเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้
ผมก็เลยคิดว่า.... มันไม่แปลกหรอก ถ้าหลวงพ่อจะโดนใส่ร้ายยิ่งกว่าที่ผมโดน

อ้อ. หนังสือที่ผมแจกในงานมีอยู่เล่มเดียวครับ
คือผมได้หนังสือมาจากคนกลุ่มที่เอาไปแจกนั่นแหละ  
แล้วแจกซีดีอยู่ มีคนเดินมาขอ ผมก็ให้ต่อไป


แต่หนังสือ เล่มนั้น .. เป็นหนังสือของหลวงพ่อสงบ ครับ  ไม่ใช่หนังสือหลวงพ่อปราโมทย์ 


กรุณารับแซบไว้ด้วย.. หากเผลอเข้ามาอ่านในเวบนี้ 


รักนะ จุ๊บๆ 


อ.พ.

คุณโฉคะ
ชอบความคิดเห็นคุณมากเลยค่ะ (เรื่องขี้ ๆ) เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และจะน้อมไปใช้ในชีวิตด้วยค่ะ
ตอนนี้เปลี่ยนมุมมองใหม่ หลังจากเสพข่าวมาหลายวัน ตอนแรกรู้สึกหงุดหงิดมากกับคนกลุ่มนี้ที่ยกประเด็นมา
ตอนนี้รู้สึกขอบคุณเล็ก ๆ ที่พวกคุณช่วยทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักหลวงพ่อ นึกอยากสัมผัสได้ยินได้ฟังคำเทศน์คำสอนขึ้นมามั่ง (นี่หมายถึง
เฉพาะผู้ที่มีใจเป็นกลาง และยังไม่ด่วนตัดสินอะไรง่าย ๆ....ซึ่งคิดว่ามีอีกเยอะในสังคม)

เหตูการณ์นี้ ทำให้เราประเมินตนเองได้ว่าเราก้าวหน้าในการปฏิบัติหรือไม่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน จะรับไม่ได้ และจะพยายามเถียงสุดฤทธิ์ ด้วยความคิดความเห็นของตน แถมยังโกรธผู้ที่มากล่าวหาด้วย
แต่ตอนนี้ เห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ยอมรับ และขอแผ่เมตตาให้ผู้ที่กระทำสิ่งใด ๆ ด้วยความไม่รู้ หรือด้วยความอ่อนแอไปชั่วขณะ
(ดังที่พระอจ.อำนาจ ได้เทศน์ไว้ ว่าเราต้องให้อภัยผู้ที่ทำผิดพลาด เพราะเขาอาจทำไปด้วยความอ่อนแอชั่วขณะนั้น)

ขอบคุณผู้ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ และขอให้พวกคุณได้สำนึกไว ๆ ค่ะ

หยง

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติธรรม มีธรรม ค่ะ
ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
อันคนพาลย่อมแพ้ภัยตนเอง
ขอเป็นกำลังใจแด่ครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ 

Nirvana

เป็นกำลังให้ หลวงพ่อเสมอครับ

>>จริงๆ แล้วผมเองและหลายคน ก็นับถือเพราะคำสอน ไม่เคยสนใจเลยว่า ท่านจะเป็นพี่น้องกับใคร จะเป็นลูกศิษย์ใคร แต่คนที่ท่านอ้างถึงต่างหาก ที่ทำให้พวกผมและคนจำนวนมาก พลอยนับถือไปด้วย พลอยรู้จักไปด้วย   เรื่องนี้เป็นคำสัจ ที่ผมพูดออกจากใจ
 
ผมเห็นด้วย และผมก็เป็นแบบนี้ครับ

ริว

การเสพข่าวแบบไม่มีสติและมีอวิชา ทำให้เกิดการสรุปและตัดสินพิพากษาตามความคิดปรุงแต่งของตนเองไปแล้ว น่าสงสาร ดิฉันไม่วิจารณ์บุคคลใดแต่สำหรับตัวเองไม่เคยพบท่าน ฟังCD ท่านมาโดยตลอดและน้อมนำไปปฏิบัติจนเห็นผลเป็นรูปธรรม เพียงเท่านี้ ดิฉันศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยมีท่านพระอาจารย์ปราโมทย์เป็นผู้เผยแพร่ธรรมะได้อย่างลัดสั้น และถูกจริตตนเองเป็นที่สุด ท่านเปรียบเสมือนแสงเทียนนำทางไปในทิศทางที่ถูกต้องทำให้ดิฉันไม่หลงทาง ได้แต่ภาวนาให้ท่านสามารถผ่านผลบททดสอบนี้ไปได้และเชื่อมั่นว่าเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ดิฉันตั้งใจจะไปฟังเทศน์จากท่านหลังจากนี้ คิดว่าผู้ที่ปฏิบัติตามแนวคำสอนของท่าน คงจะดูจิตตนเองออก และรู้ทันต่อนามธรรมต่างๆที่มากระทบได้ดี เป็นโจทย์การบ้านและบททดสอบที่ยาก ท้าทายการดูจิตตนเอง ดิฉันจะปฏิบัติตามคำสอนของท่านและสักวันหนึ่งหลังจากนี้ ดิฉันคงมีโอกาสได้ไปส่งการบ้านท่านที่สวนสันติธรรม 

โจโฉ

โห. เสียดาย ไม่ได้ดูข่าว 
ไม่นึกว่าจะเป็นประเด็นใหญ่ ให้เอามาออกพิเศษนะ

แสดงว่าบางฝ่ายมีพลังแรงในกระแสสื่อจริงๆ
ถึงได้ทำให้เรื่องนี้ใหญ่โต เอามาเล่าข่าวเฉพาะได้

เห็นเอามาตั้งเป็นคำถามให้ส่ง sms เมื่อตอนเย็นด้วย
ท่าทาง จะจี้กระแส  แต่ผมดู sms แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร
คงผิดคาดของอีกฝ่าย

เสียดายพอสรยุทธแล้วผมมานั่งทำงาน ไม่ได้เปิดข่าวดู  แหม้..
แต่ก็นะ  ดูไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

รู้แค่ว่า.. อะไรเป็นอะไร อะไรเป็นประโยชน์กับตัวเองก้พอหละ 
ใครอยากหานรก หากรรมใส่ตัว ก็สิทธิของเขาอะเน๊อะ



คนฉลาด เวลาเจอขี้ เขาเดินผ่าน เขาก็จะคิดว่า.. เอ.. ถ้าเอาไปใส่ต้นไม้ ก็คงเป็นปุ๋ยที่ดี ต้นไม้งามนะ
คนโง่ ก็จะมองแค่ว่า.. ยี้ๆๆ ขี้ๆ เหม็นๆ  แล้วก็ด่าๆๆๆ  ใครมันเอาขี้มาไว้ตรงนี้ ใครมาขี้ตรงนี้  เลวจัง  บลาๆๆๆ  ฯลฯ

แต่คนดีเวลาเจอขี้ นอกจากเขาจะเห็นว่ามันทำปุ๋ยได้
เขาก็จะเก็บขึ้นมาแล้วเอาไปโรยรอบต้นไม้แถวๆ นั้น 
ไม่เสียเวลามานั่งด่าใคร ไม่เสียเวลามาทำท่ารังเกียจขึ้ให้จิตเศร้าหมอง

แต่จะทำประโยชน์ทันที ด้วยการเอาขี้ไปใส่ต้นไม้
คนเดินผ่านมาก้ไม่เหม็น ไม่เผลอเหยียบ ต้นไม้แถวนั้นก็ได้ปุ๋ย งอกงาม

นี่เอาแค่เรื่องขี้นะครับ

หากเป็นเรื่องอื่น คนดี คนฉลาด คนโง่ และคนเลว ก็จะทำ พูด คิด แตกต่างกัน

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้..  พี่น้องเอ้ยยย...

อ.พ.

เพิ่งดูและฟังคุณสรยุทธ (เรื่องเด่น ฯ)จบเมื่อสักครู่  มีทนายของสวนฯ และเสียงของคุณใหม่(บ้านอารีย์)..อยากให้คุณสรยุทธฟังและลองปฏิบัติตามซีดีซักครั้ง คำถามและความเข้าใจจะดีขึ้น
อยากให้เหตุการณ์ เป็นสักแต่ว่าผ่านมาแล้วผ่านไป  ใครไม่ศรัทธาก็ถอยไป ก็เท่านั้น
แต่สำหรับเราแล้ว  ศรัทธาต่อคำสอนของหลวงพ่อคงไม่เสื่อมคลาย แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ยึดติดครูบาอาจารย์  ฟังแต่ซีดีบ่อย ๆ เท่านั้น
เงินทองก็ไม่ได้บริจาคให้สวนฯด้วยซ้ำ (มีแต่โอนนิด ๆหน่อยๆในเทศกาลกฐินประจำปีแค่ครั้งเดียว)

จนถึงวันนี้ หลักคำสอนของท่านทำให้เราปล่อยวางสิ่งต่าง ๆได้มาก และ ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น   น่าเสียดายถ้าเหตุการณืในวันนี้ทำให้การเผยแผ่คำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าต้องมามีอุปสรรคจากคนกลุ่มเล็ก ๆเพียงไม่กี่คน  หรือว่าอย่างที่หลวงพ่อเทศน์ กรรมจัดสรรทำให้เราต้องมาเจอเหตูการณ์ต่าง ๆ
ทุกอย่างมีมาแต่เหตุเสมอ

เรามีหน้าที่ทำความเพียร และ มีขันติให้มาก ตามคำสอนของท่านนะคะ

โจโฉ

* ล่าสุด.. ใครอยากรู้จริงๆ ลองไปค้นข้อมูล สืบหาจากผู้เป็นใหญ๋ในวัดบูรพารามองค์ปัจจุบันนะครับ บางทีอาจจะได้ข้อมูลอะไรจริงๆ   บางทีเราก็ลืมนึกไปเลยว่า พระบางรูปที่ยังมีชีวิตอยู่ บางท่านไม่เคยมีคนรู้จัก แต่จู่ๆ ก็มีคนรู้จักเพราะหลวงพ่อปราโมทย์พูดถึง แล้วพอท่านเหล่านั้นพูดอะไร คนก็เชื่อไปหมด แม้แต่หาว่าหลวงพ่อปราโมทย์โกหก  ถามจริงๆ ก่อนหน้านี้ มีใครรู้จักท่านเยอะเท่านี้บ้าง  การที่หลวงพ่อปราโมทย์อ้างถึงบางท่าน เป็นผลดีหรือผลเสียต่อใคร 


 


 

ผมถามว่า.. หลวงพ่อปราโมทย์เป็นที่รู้จัก มีศิษย์มากมาย เพราะคำสอนของท่านได้ผลจริง หรือเป็นเพราะว่า การกล่าวถึงบุคคลอื่น...





จริงๆ แล้วผมเองและหลายคน ก็นับถือเพราะคำสอน ไม่เคยสนใจเลยว่า ท่านจะเป็นพี่น้องกับใคร จะเป็นลูกศิษย์ใคร แต่คนที่ท่านอ้างถึงต่างหาก ที่ทำให้พวกผมและคนจำนวนมาก พลอยนับถือไปด้วย พลอยรู้จักไปด้วย   เรื่องนี้เป็นคำสัจ ที่ผมพูดออกจากใจ
 







ไม่ได้งมงาย ไม่ได้สักแต่ว่านับถือ เพียงแต่เห็นว่าได้ผลกับจริตและวาสนา นิสัยของตน และเชื่อว่าหลายคนก็คงรุ้สึกไม่ต่างกับผมเช่นกัน  หนทางขึ้นเขาไม่ได้มีแค่ทางเดียว  คำพูดประโยคเดียวกัน คนมีปัญญา และสัญญา(ความจำได้หมายรู้)แตกต่างกัน ก็เข้าใจกันไปคนละมุม บางคนอาจบอกนี่ไม่ใช่ แต่คนที่เขาพิจารณาไปแนวของเขา เขากลับเห็นประโยชน์แล้วบอกว่าใช่ เพราะตีความไปต่างกัน





เหนื่อยใจจะพูด จะเถียง ศาสนาก็ไม่ต่างกับการเมือง



คนดีจริงๆ เท่านั้น ที่เขาจะเห็นว่า เหลืองกับแดงก็ล้วนปารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง



เพียงแต่เขาเลือกเชื่อไปคนละมุม แต่จุดหลัก ก็อยากเห็นบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง



พอเลือกเชื่อต่างกัน การกระทำก็ต่างกัน แต่คนดีจริงๆ เขาก็จะไม่แตกแยก ทำร้ายกัน


คนดีจริงๆ จะมองเห็นแต่ข้อดีของคนอื่น เลือกมองที่ข้อดี และเคารพในศรัทธาของผู้อื่น

ANUVINEE

โลกธรรมแปดที่หลวงพ่อสอนอยู่เสมอสำแดงอิทธิฤทธิ์แล้วค่ะ แต่ความรู้ตัวและการมีสติของหลวงพ่อจะทำให้ท่านผ่านมันไปได้แน่นอน เราเชื่อมั่นและศรัทธาท่านเสมอ คำสอนของท่านช่วยให้เราตื่นและสู้กับความจริงของชีวิตได้อย่างกล้าหาญมากขึ้น ละชั่วกลัวบาปมากขึ้น บุญคุณตอบแทนไม่มีวันหมด เราเห็นด้วยกับคุณโจโฉ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นคุณความดีของหลวงพ่อจะอยู่กับเราตลอดไป

สุพรรณา

ดิฉันเป็นอีกคนที่ติดตามฟัง ธรรมจากหลวงฟ่อ และคิดว่า เป็นสิ่งที่ท่านได้สอนตามพระไตรปิฎก และ เป็นแนวทางที่ เข้าใจง่าย ไม่มีการอวดอ้างอุตริ อะไรเลย

อนุสรณ์

ขอเป็นกำลังใจให้หลวงพ่อครับ ไม่เคยพบท่านฟังแต่ ซีดี ได้ประโยขน์ในการใช้ชีวิตมากๆ ผมสงสัยว่าหลวงพ่อไปเผาบ้านหรือไปพรากลูกพรากเมีย เขาเหล่านั้นหรือไม่ทำไมต้องจองเวรกันเกินกว่าเหตุ แค่มียุงเข้ามาในบ้านไม่กี่ตัว ต้องลงทุนเผาบ้านทิ้งเพื่อกำจัดยุงทิ้งเชียวหรือ ถ้าผมไม่ศรัทธาผมก็จะเดินหนีไปไม่เห็นต้องลงทุนทำขนาดนี้เลย

Page : 1 2 [Next]
Lock Reply
 
 หน้าแรก  รวมเสียงโจโฉ  บทความ  ภาพกิจกรรม  สนับสนุนโจโฉ  ติดต่อ
view