ขอบคุณมากค่ะ ตอบได้ถูกใจจริงๆ   "หากเราไปถึงระดับ เข้าถึงธรรม
อะไรก็ทำอันตรายเราไม่ได้ แล้วทุกอย่างรอบตัวจะปรับเปลี่ยนสภาพดีขึ้นเรื่ือยๆ ได้จริง"

รูปผมลงไว้เต็มเวบเลยครับ
ทั้งในเกี่ยวกับผุ้จัดทำ สมุดเยี่ยม ช่องติดต่อโจโฉ

คนเราก็อุปทานหมู่ได้นะครับ

จิตมีพลัง  หากทำสมาธิมากพอ หรือเจริญสติถึงขั้น มันก็เกิดเป็นพลังงาน
พอมีพลังงาน จะคิดอะไร ก็เป็นจริงได้ตามนั้นเหมือนกัน

เรื่องนี้ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาธิ จึีงบอกไม่ได้ว่า ทำแล้วสุขภาพดีหรือไม่
แต่หากใจเราคิดอย่างไรมันก็จะเกิดแบบนั้น

อ.พร เคยเล่าว่า ฝรั่งเขามีการนำคนมาสะกดจิต เอาดินสอจี้ที่แขนแล้วบอกว่า นี่คือไฟ
ก็ปรากฎว่า เจ็บปวดจริงๆ แล้วก็เกิดรอยไหม้ขึ้นจริงๆ ครับ

ผมไม่ค่อยใส่ใจกับอะไรที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอน
หรือพิสูจน์ไม่ได้อะคับ 

อย่างเรื่องพลังจักรวาล พอลองมาฟังหลวงพ่อพุธอธิบาย
ก็จะเห็นเป็นอีกแง่มุมหนึ่งเลย เห็นเป็นธรรมะ เป็นธรรมดา
แต่กับคนอีกกลุ่มก็อาจจะออกแนวลึกลับ บางคนก็งมงายไปเลยก็มี

เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร ผมก็ไม่กล้าวิจารณ์
เพราะผมรู้สึกว่า มันไม่ใช่หลักของพุทธศาสนา

ผมเชื่อแค่ว่า การจะช่วยโลกให้ได้จริงๆ
ต้องเริ่มที่ทุกคนมีศีล 5 มีทาน มีภาวนา มีเมตตา
หากคุณคิดว่าจะช่วยโลกด้วยคนไม่กี่คน

มันก็ผิดหลักกฎแห่งกรรมซิครับ

หากคนทั้งโลกมันชั่ว มัวเมา ไปนั่งนับถอยหลังไร้สาระกันแบบที่เห็น
คุณคิดว่า คนแค่หยิบมือ จะช่วยให้คนพวกนี้ได้สิ่งดีๆ ในชีวิตเหรอครับ

โลกมันจะดีได้ มันจะไม่เกิดภัยพิบัติ ก็เพราะมันต้องมีกรรมดีมารองรับด้วย
คนจำนวนมาก หากทำดีจะมีพลังงานดีแผ่ออกไปรอบๆ ตัว สะสมได้แม้กระทั่งในโมเลกุลน้ำของแม่น้ำใกล้ๆ เมืองนั้น

ทีนี้พอคนดี มันมีดี ภัยพิบัติมันก็ไม่เกิด
เพราะจะเอากรรมอะไรหละมาคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก หากคนเหล่านั้นมีความดีมากพอ

ความดีมากพอก็จะละลายกรรม บรรเทากรรม เปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้
แม้ต่อให้อดีตเคยทำชั่วมามากมายก็ตาม ยกเว้นอนัตริยะกรรม เช่น ฆ่าพ่อฆ่าแม่มา ก็อาจจะมาให้ผลได้แม้เป็นอรหันต์แล้ว

แต่กรรมที่จะส่งให้คนทั้งโลกตายพร้อมกัน  ผมก็ยังไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรหนักแน่นพอ
เท่ากับเมื่อคนทั้งโลกขาดศีลธรรม และไม่มีคุณธรรมพอที่จะเป็นพลังงานส่งให้อยู่ในภพมนุษย์
และต้องคนทั้งหมดก็ต้องเลวมากๆ เลวจนภพมนุษย์ที่เกิดมาเพื่อรองรับความเป็นมนุษย์ทนไม่ไหว

ผมเห็นข่าวการสร้างพระพุทธรูปหลายร้อยล้าน ว่าจะช่วยปกป้องโลก
ผมดูแล้วผมก็คิดไปในแนวของผมนะว่า

เอาเงินหลายร้อยล้าน มาปลูกป่าได้ไม่รู้กี่ล้านไร่
ป่าไม้ที่ปลูกใหม่ จะช่วยให้โลกไม่ร้อน เพิ่มอ๊อกซิเจน  ช่วยดูดซํบน้ำ
ทำให้น้ำไม่ท่วม โลกไม่ร้อน ภัยพิบัติก็ลดได้จริงๆ
อันนี้น่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากกว่า

ภัยพิบัติตอนนี้เกิดจากโลกร้อนเป็นหลัก
เราต้องรณรงค์การปลูกป่าไม้ทดแทน เป็นหลัก และงดการใช้ไม้เป็นหลัก
กับหาระบบกำจัดควันเสียจากโรงงานฯ ให้ได้ มากที่สุด หรือให้ได้ 100 เปอร์ จริงๆ

นี่มันต้องแก้ตรงนี้

มันต้องแก้ให้ตรงจุด
คือแก้ทั้งรูปและนาม

รูปคือ การปลูกป่าและลดเลิกใช้ไม้เด็ดขาด มันเป็นหลักสำคัญที่สุด
นามคือ การแก้ที่คน ให้มีคุณธรรมมากขึ้น

เมื่อคนมีศีลธรรม กรรมดีจะส่งให้ได้ภพดีๆ สิ่งแวดล้อมดีๆ
เห็นไหม ประเทศไทย มีในหลวง มีหลวงตา มีสมเด็จพระสังฆราช
ในขณะที่ต่างชาติ เจอภัยพิบัติมากมาย แต่เมืองไทยโดนแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ในหลวงประทับที่ไหน เคยเห็นภัยพิบัติไปเยือนแบบรุนแรงไหม
หลวงตา สมเด็จพระสังฆราชประทับอยู่ทีไหน อยู่จังหวัดไหน
เคยเห็นน้ำตามไปท่วม พายุตามไปถล่ม ฝนแล้งไหม

นี่แหละ ต้นเหตุ

หากทุกคนมีศีล 5 ครบถ้วน รับรอง ภัยพิบัติอะไรก็กล้ำกลายไม่ได้ครับ
ยกเว้นว่า กรรมเก่าจะแรงจริงๆ  ซึ่งผมไม่เชื่อหรอกว่า
คนทั้งโลกจะมีกรรมแรงพอที่จะให้หายนะพร้อมกันได้ทั้งหมด

เต็มที่ก็มีเป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งกรรมให้ผลเมื่อถึงเวลา

ผมอยากเห็นการแก้ปัญหาภัยพิบัติให้ตรงจุดมากกว่านี้นะ
เร่งปลูกป่า เร่งให้คนหันมาฟังธรรมะ หันมาสวดมนต์ รักษาศีลกันให้มาก

ถ้าเป็นผม ผมจะเน้นแบบนี้นะ  เน้นให้เข้าใจธรรมะเป็นหลัก
แต่เรื่องของพลังงาน ก็ปล่อยให้คนที่เขาชำนาญจริงๆ เป็นคนทำกันไป
หรือแล้วแต่ศรัทธาของพวกเขา

แต่ตั้งแต่เกิดมา ผมก็ยังไม่เคยเจอคำสอนของพระพุทธองค์ และพระสาวกตรงไหน
เกี่ยวกับเรื่องกำหนดออกไปนอกกาย เอาสมาธิไปทำอะไรแปลกๆ แบบนี้อะคับ
ครูบาอาจารย์ในยุคปัจจุบันก็ไม่เคยสอน  คุณดังตฤณเอง ก็เก่งสมาธิ ผมก็ไม่เคยเห็นท่านสอนให้ผมไปทำอะไรแบบนี้

ทุกท่านล้วนสอนให้ดูกาย ดูจิต ให้รักษาศีล ให้ภาวนา ให้เข้าใจธรรมะ
เพื่อการปล่อยวาง เพื่อการละมั่นในความเป็นตัวตนเท่านั้น

ผมก็เชื่อของผมนะ ว่า หากเราไปถึงระดับ เข้าถึงธรรม
อะไรก็ทำอันตรายเราไม่ได้ครับ แล้วทุกอย่างรอบตัวจะปรับเปลี่ยนสภาพดีขึ้นเรื่ือยๆ ได้จริง